ส่วนผสม 1. ปลาดอร์รี่ 200 กรัม
2. มันฝรั่งต้ม 20 กรัม
3. หน่อไม้ฝรั่ง 10 กรัม
4. ผักโขม 20 กรัม
5. หอมใหญ่สับ 30 กรัม
6. พริกแกงพะแนง 20 กรัม
7. กะทิสด 30 กรัม
8. น้ำตาลปี๊บ 5 กรัม
9. น้ำปลา 5 กรัม
10. พริกแดง 5 กรัม
11. ไวน์ขาว 10 กรัม
12. เกลือ-พริกไทย 5 กรัม
13. น้ำมันมะกอก 10 กรัม
14. ซอส Lee Perrine 5 กรัม
15. มัสตาร์ด 5 กรัม
16. เนยสด 5 กรัม
วิธีทำ1. หมักปลาดอร์รี่ด้วย ไวน์ขาว เกลือ พริกไทย ซอสLee Perrine และมัสตาร์ด นำมาม้วน หมักไว้ประมาณ 3-5 นาที กริลล์ด้วยไฟ 170 องศา
2. ผัดกะทิกับพริกแกงพะแนงให้หอมแตกมัน ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และซอสมิโซ
3. ผัดผักต่าง ๆ ด้วยเนย หอมสับ เฟรมด้วยไวน์ขาว ตกแต่งด้วยมันฝรั่งและผักโขม จากนั้นราดด้วยซอสพะแนง มิโซ และพริกแดงหวานสับ
สลัดตับห่าน
ส่วนผสม
1.ตับห่าน 80 กรัม
2.ผักเรดโอ๊ค 5 กรัม
3.ผักกรีนโอ๊ค 5 กรัม
4.ผักไอซ์เบิร์ก 5 กรัม
5.ร็อกเก็ตสลัด 5 กรัม
6.มะเขือเทศ 2 ลูก
7.เกลือพริกไทย,กระเทียมกีบ 2 กรัม (อย่างละ)
8.ออริกาโน,ไวน์,น้ำมันมะกอก 2 กรัม (อย่างละ)
9.บาซามิกซอส 2 กรัม
ขั้นตอนการทำ
1.หมักตับห่านกับเครื่องเทศต่างๆเริ่มจาก เกลือพริกไทย ออริกาโน พริกไทยดำ ตามด้วยไวน์แดงและกระเทียม ทิ้งไว้ปรพมาณ 2 -3 นาที
2.หมักมะเขือเทศกับเครื่องเทศที่เตรียมไว้เหมือนตับห่าน แต่ทำแยกกันคนละจาน
3.เทน้ำมันมะกอกลงในกะทะที่เตรียมไว้ นำมะเขือเทศลงไปทอดให้สุกจนได้กลิ่นหอม
4.เริ่มทอดตับห่านโดยใช้คนละกะทะกับมะเขือเทศ ใช้เวลาในการทอดประมาณ (3 นาที) ให้พอสุกได้ที่ อย่าทอดนานจนเกินไป
5.ใส่ไวน์ลงไปเพื่อลดกลิ่นสาปของตับห่านและเพิ่มสีสรรให้กับรสชาติของอาหาร
6.นำผักที่เตรียมไว้จัดตกแต่งในจานให้สวยงาม เสิร์ฟพร้อมตับห่านและมะเขือเทศที่ทอดเสร็จ ราดด้วยซอสบาซามิก เป็นอันเสร็จสมบูรณ์
ซุปไก่บล็อกโคลี่
ส่วนผสม นมพร่องมันเนย 120 กรัม
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
เนื้อไก่ฉีกหรือหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 55 กรัม
น้ำสต๊อกไก่หรือน้ำต้มกระดูกไก่ 1 ถ้วย
เนย 2 ช้อนชา
บล็อกโคลี่ 1/2 ถ้วย
มันฝรั่ง 1/4 ถ้วย
แครอทสุก 1/4 ถ้วย
เกลือ 1/2 ช้อนชา
พริกไทยเล็กน้อย
วิธีการทำ1.ผัดบล็อกโคลี่ มันฝรั่งและแครอทที่ลวกสุกแล้วกับเนย พอให้ได้กลิ่นหอม
2.เติมน้ำสต๊อกไก่ เนื้อไก่ แล้วปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ตั้งไฟร้อนพอเดือด
3.เติมนมแล้วคนเบาๆต่อเนื่อง พอเริ่มเดือดให้ละลายแป้งข้างโพดกับน้ำ ค่อยๆเทลงในซุป คนให้เข้ากันรอให้เดือด ตักเสริฟร้อนๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น